Call us now:

“3 รู้” ที่คุณควรต้องรู้ วันนี้เราจะมาคุยกับ คุณเอกพล ยวงนาค ทนายสายอ่าน
เจ้าของเพจ Ekkapon Inter Law
ปัจจุบันในยุคของโลกไร้พรมแดน ผู้คนสามารถเข้าถึงข้อมูลและแสดงออกซึ่งสิทธิและหน้าที่ของตนเองได้อย่างกว้างขวาง ทั้งในทางที่ถูกต้องและไม่ถูกต้อง อย่างไรก็ตาม บางครั้งการแสดงออกดังกล่าวอาจล้ำเส้นไปสู่การกระทำที่อาจส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ซึ่งนำไปสู่การเรียกร้องว่าใครผิดใครถูก และอาจนำไปสู่คดีความหรือการฟ้องร้องในที่สุด
ในสถานการณ์เช่นนี้ จำเป็นต้องมีผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายเข้ามาไกล่เกลี่ยและให้ความกระจ่างแก่คู่กรณี “คุณเอกพล ยวงนาค เจ้าของเพจ Ekkapon Inter Law ที่ปรึกษากฎหมาย และ กรรมการผู้จัดการบริษัท นิติธร ซัมมิท กรุ๊ป จำกัด” ผู้มีประสบการณ์กว่า 20 ปี ได้ให้ข้อคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า
“การถกเถียง หรือ แสดงความคิดเห็นผ่านช่องทางออนไลน์ และโซเชียลมีเดีย นั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตลอดเวลา และยังคงมีเรื่องราวที่นำไปสู่การฟ้องร้อง และ คดีความอยู่อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากผู้คนเริ่มเข้าใจสิทธิ บทบาท หน้าที่ของตนเองมากขึ้น ดังนั้นเมื่อเกิดข้อโต้แย้งและมีการแสดงความคิดเห็นของตนโดยอาศัยอารมณ์มากกว่าเหตุผล จนนำไปสู่ข้อโต้แย้งทางกฎหมายและส่งผลให้มีความตั้งใจในการดำเนินคดีนั้น ควรมีสิ่งที่ต้องพิจารณาก่อนคิดจะฟ้องร้องดำเนินคดี”
หลักฐานและข้อเท็จจริง โดยในการฟ้องร้องหรือการนำเสนอคดีต่อศาลให้เกิดเป็นคดีความนั้นมีจุดประสงค์เพื่อให้สามารถบังคับตามกฎหมาย การสะสมหลักฐานและข้อมูลที่เกี่ยวข้องเป็นสิ่งสำคัญ ก่อนที่จะเริ่มกระบวนการฟ้องคดี เพื่อให้มั่นใจว่าคุณมีข้อมูลที่เพียงพอและสามารถพิสูจน์ข้อเท็จจริงในศาลได้ ควรสำรวจและรวบรวมหลักฐานที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่เพื่อสนับสนุนข้อเรียกร้องของคุณในศาล
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผู้ที่ประสงค์จะนำคดีเสนอต่อศาลควรศึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับคดีของคุณอย่างละเอียด เพื่อให้คุณเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิและความรับผิดชอบของทั้งสองฝ่าย ผู้ฟ้องต้องรู้สิทธิตามกฎหมายว่าสามารถฟ้องคดีประเภทใดได้บ้าง เช่น คดีแพ่งหรือคดีอาญา มีความเข้าใจถึงเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ในการฟ้องคดีแต่ละประเภท
พิจารณาทางเลือกอื่นและผลที่เป็นไปได้ ก่อนตัดสินใจฟ้องคดี ควรควบคุมอารมณ์และพิจารณาอย่างรอบคอบ ระลึกไว้เสมอว่าการฟ้องคดีจะมีผู้เสียหายอยู่เสมอไม่ฝ่ายใดก็ฝ่ายหนึ่งหรืออาจจะทั้งสองฝ่าย ควรพิจารณาทางเลือกและผลที่เป็นไปได้ทั้งหมดก่อนที่จะตัดสินใจฟ้องคดีเพราะการฟ้องคดีไม่ใช่ทางเลือกเดียวเสมอไป มีวิธีอื่นๆ ในการแก้ไขข้อพิพาทของคุณ เช่น การไกล่เกลี่ยหรืออนุญาโตตุลาการ ทางเลือกเหล่านี้อาจเร็วกว่าและถูกกว่าการฟ้องคดี และอาจช่วยให้คุณรักษาความสัมพันธ์กับอีกฝ่าย นอกจากนี้ ควรพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการฟ้องคดี ความน่าจะเป็นในการชนะคดี เพราะบ่อยครั้งที่คู่ความใช้อารมณ์นำหน้า ฟ้องคดีไปแล้วชนะคดี แต่ก็ได้เพียงคำพิพากษา แต่ไม่ได้เงิน นอกจากนี้ ต้องพิจารณาถึงความสามารถในการรับมือกับค่าใช้จ่ายและเวลาที่จะใช้ในกระบวนการฟ้องคดี
คุณเอกพลฝากทิ้งท้ายไว้ว่า ในบทบาทของนักกฎหมายแม้จะเกี่ยวข้องกับข้อพิพาทหรือการฟ้องร้องคดีอยู่เสมอ แต่ก็อยากจะแนะนำบุคคลทั่วๆไปว่า ถ้าไม่จำเป็นแล้ว อย่าต้องมีข้อพิพาทที่ไปถึงขั้นโรงขั้นศาลกันเลย เพราะเวลาที่เป็นคดีและต้องนำเข้าสู่การพิจารณาของศาลแล้ว ไม่ใช่เรื่องที่สนุกเลย ดังนั้น การพูดคุยเจรจา การลด ego ยอมถอยหลังกันคนละก้าว หาทางออกที่ทั้งสองฝ่ายพอจะยอมรับได้ น่าจะเป็นประโยชน์มากกว่าการนำคดีขึ้นสู่ศาล แต่ถ้าท้ายที่สุดแล้ว ไม่มีทางเลือกอื่นที่ดีกว่าจริงๆ คุณควรปรึกษาทนายความที่มีประสบการณ์ในการจัดการคดีที่คล้ายคลึงกัน เพราะทนายความสามารถให้คำแนะนำทางกฎหมายแก่คุณและช่วยคุณตัดสินใจว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไปได้
หากมีข้อสงสัยในข้อกฎหมาย หรือ กำลังมีประสบการณ์ และ ต้องการที่ปรึกษากฏหมาย
สามารถปรึกษา คุณเอกพล ยวงนาค ทนายสายอ่าน เจ้าของเพจ Ekkapon Inter Law
ผ่านช่องทางดังต่อไปนี้
Official Website: https://www.nitithornlaw.com
Official Fanpage: Ekkapon Inter Law
Line: @thailandlawyer